วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้หมุนเวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้ง เมื่อครบรอบปีอดีตที่ผ่านมาจะถูกเรียกว่าเป็นสิ่งเก่า และปีที่จะมาถึงคือโอกาสใหม่ หลายคนไม่อยากให้ผ่านพ้นปีนี้ไป แต่ยังมีอีกหลายคนอยากเริ่มชีวิตใหม่เมื่อเริ่มต้นนับวันแรกของปีข้างหน้า

วันที่ 31 ของปีเก่าเหมาะกับการลืมอดีต และวันที่ 1 ของปีใหม่เป็นตัวแทนของการเริ่มก้าวแรกของชีวิตใหม่

หลายคนรอคอยที่จะได้กลับไปพบกับคนในครอบครัว หลังการลาจากมานานแรมปี ตั๋วทุกใบถูกจองจนเต็ม ทั้งทาง รถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน กระทั้งการเดินทางโดยพาหนะส่วนตัว แม้ระยะทางจะยาวไกล แต่การรอคอยที่จะพบเจอกันยาวนานยิ่งกว่า สำหรับคนไกลบ้านแล้วระยะเวลาเพียง สองสามวัน ก็เพียงพอที่จะเยียวยาความคิดถึงได้อย่างมากมาย

กระเช้าของขวัญถูกนำมาว่างจัดเรียงอย่างสวยงามตามร้านรวง ผู้คนต่างจับจ้องมองหาของขวัญสำหรับคนสำคัญ พ่อ แม่ อากง อาม่า ครูบาอาจารย์ เพื่อน แฟน ฯ หลายคนรอคอยของขวัญพิเศษ ในเวลาที่จะมาถึง หลายคนรอคอยที่จะพบเจอกับคนที่ไม่ได้ค่อยพบเจอ หลายครอบครัวเตรียมฉลองกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ขณะที่บางคนไม่มีแม้สักคนเคียงข้าง

การพบเจอมีคุณค่าเสมอ แต่น่าแปลกที่ทำไมเราไม่จัด “เทศกาลส่งท้ายเดือนเก่าตอนรับเดือนใหม่” เพื่อที่จะไม่ต้องรอกันเป็นปีที่จะพบปะสังสรรค์ แต่มีโอกาสมอบสิ่งดี ๆ ให้ซึ่งกันและกันได้ทุกเดือน หรือเสน่ห์ของความคิดถึงมันอยู่ที่ระยะเวลาของการห่างไกล ความพิเศษนั้นต้องนาน ๆ ครั้งถึงจะมีคุณค่า หรือเหตุผลที่แท้จริงของการได้ใกล้กันมันมีข้อจำกัดของความเป็นตัวของตัวเองเข้ามามีส่วนในการแสดงออก หรือเป็นเพราะสภาวะทางสังคมที่จำกัดเราไม่ให้มีโอกาสได้มอบความรู้สึกดี ๆ ให้กันบ่อย ๆ หรือเป็นเพราะเราเองที่ไม่ได้มองหาโอกาสที่จะทำมัน

มันคงดีไม่น้อยหากโลกนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการมอบความสุขให้ซึ่งกันและกัน ดังเช่นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หากเรามองหาโอกาสที่จะมอบความสุขให้กับคนที่เรารัก หรือคนที่อยู่รอบข้างเรา ก็คงไม่ต้องรอจนครบรอบปีที่จะทำ

อย่ารอให้ใครต้องกำหนดเทศกาลขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการมอบความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนที่คุณรัก เพราะไม่แน่ว่าเขาคนนั้นอาจจะอยู่ไม่ถึงเทศกาลต่อไป...