วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"นิทานดวงอาทิตย์"

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ในห้วงอวกาศอันมืดมืด ไร้สิ่งมีชีวิตใด ๆ ถือกำเนิด หมู่ดาวใหญ่น้อยส่องแสงระยิบระยับอวดความงามกันอย่างมีความสุข ดาวแต่ละดวงต่างภาคภูมิใจกับแสงสีอันงดงามของตน แต่มีดาวดวงหนึ่งที่แตกต่าง มันมีขนาดใหญ่มหึมา แต่หาได้มีแสงสีอย่างดาวดวงอื่น ทุก ๆ วันมันจะคอยจ้องมองความงามของบรรดาเพื่อนดาวทั้งหลายอย่างมีความสุข มันชอบที่จะทำให้บรรดาเพื่อน ๆ หัวเราะเพราะทุกครั้งที่ดาวเหล่านี้หัวเราะ และมีความสุขพวกมันก็จะคอยเปล่งประกายเจิดจรัสส่งความงดงามออกมาให้ดาวดวงใหญ่ได้เห็นอยู่เสมอ
อยู่มาขณะหนึ่ง ที่ดาวดวงใหญ่กำลังมีความสุขกับการได้จ้องมองแสงสวยของดวงดาวทั้งหลาย พลันเสียงหนึ่งปรากฏจากห้วงความมืดถามดาวดวงใหญ่ว่า
“ทำไมเจ้า ถึงไร้แสงสวยเช่นดาวดวงอื่นเล่า ?”
“แล้วใยข้าต้องมีแสงด้วย ในเมื่อความสุขของข้าคือการได้จ้องมองความงามของผู้อื่น”
“จริงหรือ ที่เจ้ามีความสุขดีแล้ว”
“ข้าว่าถ้าดาวดวงใหญ่อย่างเจ้า มีแสงส่องประกายออกมาละก็ เจ้าต้องเป็นดาวที่สวยที่สุดเป็นแน่”
“จริงหรือ !!!” ดาวดวงใหญ่เริ่มคล้อยตาม
“ก็จริงนะสิ”
“แล้วข้าต้องทำอย่างไร ถึงจะมีแสงเจิดจรัสเช่นดาวดวงอื่น”
“เพียงแค่เจ้านำพาร่างอันใหญ่โตของเจ้าเข้ากระทบกับดาวดวงอื่นที่มีแสง ไม่นานแสงเหล่านั้นก็จะติดตัวเจ้ามา จนทำให้เจ้ากลายเป็นดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดในจักรวาล”
สิ้นประโยค เสียงนั้นพลันหายเข้าไปในความมืดมิด ทิ้งไว้เพียงดาวดวงใหญ่ กับความฮึกเหิมใจที่มี...
ดาวดวงใหญ่มิรอช้า รีบพุ่งเข้าหาหมู่ดาวใหญ่น้อยหวังที่จะกระทบเอาแสงจากดวงดาวเหล่านั้นคิดหวังว่าให้ผู้อื่นแบ่งปันความงามให้กับตัวเอง ทุกครั้งที่กระทบแม้จะเจ็บปวดก็จะยอมทนเพื่อความงดงามของตน ดวงดาวทั้งหลายต่างตกใจในสิ่งที่ดาวดวงใหญ่ได้กระทำต่างพยายามหลีกหนีแต่มิอาจพ้น ต่างเจ็บแต่ก็จำต้องฝืนทนอยู่เป็นเวลาช้านาน
บัดนี้เป็นจริงดังคำบอกกล่าว ดาวดวงใหญ่จรัสแสงเจิดจ้า ทั่วจักรวาลมิมีใครเทียบเท่าเขาได้ มันจึงเริ่มเปล่งแสงส่องสว่างกว้างไกล ดาวทุกดวงขนานนามให้ว่า “ดวงอาทิตย์” ยิ่งนานวันแสงนั้นยิ่งมาก และทุกครั้งที่มันเปล่งประกาย ความร้อนจากแสงนั้นทำให้มิอาจมีใครเข้าใกล้ ดาวทุกดวงจึงพากันหนีห่างมันไป แม้วามันมีแสงที่งดงามกว่าดาวดวงใดในท้องนภา แต่ทว่า ความสุขที่เคยมีกลับหดหาย เพื่อนดาวน้อยใหญ่ที่เคยเปล่งประกายให้มันเห็นนั้นมิอาจอยู่ใกล้ บัดนี้ไม่มีใครอยู่เคียงข้างกายมันได้อีก
เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็มิสามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีก ด้วยแสงอันแรงกล้าของมันนั้นที่บดบังแสงของบรรดาดาวดวงอื่นที่เคยเปล่งประกาย แม้จะสุดแสนเสียใจแต่ก็สายสำหรับการกลับตน