ฉันล่องลอย ฉันหงอยเหงา
มองไปรอบกาย เห็นใบไม้ร่วงหล่น
ชีวิตคนเราก็เช่นนั้น
ต่างกันเพียงแค่ เวลาแห่งการร่วงสู่ห้วงทิวานิรันดร์
มิอาจมีผู้ใดฝืน ขืนขัดสัจจะแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า
ฉันค้นหาคำว่า “ความหมายแห่งชีวิต”
เสาะแสวง เพื่อได้พบ
เมื่อฉันตื่นรู้ ก็พานพบว่ามิได้เข้าใจอะไร
มากไปเสียกว่า ยามตื่นรู้แรกบนโลกนี้
จะมีอะไรอีกเล่า ในคำว่า “ความหมายแห่งชีวิต”
นอกเสียจาก “ชีวิต” อันเต็มไปด้วย “ความหมาย”
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ความทรงจำ...
หากความทรงจำของคุณ ถูกลบเลือนไปอย่างสูญสิ้น คุณจะทำเช่นไร ???
หลายครั้งเรามักหลงลืม...ลืมล็อกห้อง ลืมของไว้ในห้องน้ำ ลืมกินยา ลืมทำงานที่ค้างคา ลืมวันเกิดเพื่อน ลืมว่าวันนี้นัดใครไว้ ลืมชื่อคนที่เคยรู้จัก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในชีวิตเราทุกคน มันเป็นผลของการที่สมองในส่วนของความทรงจำทำงานผิดพลาด
ผมได้มีโอกาสดูหนังเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “A Moment to Remember” จึงได้เข้าใจความเจ็บปวดของการถูกลบความทรงจำ ในหนังพูดถึงประเด็นของการถูกลบเลือนทางความทรงจำได้อย่างน่าสนใจ และนำเสนอว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อเราต้องสูญเสียความทรงจำ
ผมเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อยากจะลืมอดีต” “ฉันไม่อยากจดจำวันเวลาเก่า ๆ ที่เลวร้าย”
แน่นอนความทรงจำในชีวิตเรา ล้วนมีทั้ง ดี และ ไม่ดี แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาก่อรวมกันเป็น “ประสบการณ์แห่งคำว่า ชีวิต” และทำให้เรา เป็น เรา ได้ในทุกวันนี้ ความทรงจำที่ไม่ดี อาจทำให้เราเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงมัน แต่ความทรงจำที่ดี ก็ทำให้เราอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ยามที่ได้หวนระลึกถึงเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะนึกถึงสิ่งไหนมากกว่ากัน
ปัจจุบันมีการวิจัยถึงเรื่องการลบความทรงจำออกจากสมองของมนุษย์ งานชิ้นนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ในทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นจริงได้ในอนาคต ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริง หลายคนคงไม่ต้องเจ็บปวดในการที่จะต้องทรมานกับความทรงจำที่ไม่ดีอีกต่อไป และแน่นอนชีวิตเราก็คงเหลือเพียงแต่ความทรงจำที่แสนหวาน และโลกของทุกคนคงเป็นสีชมพู
แต่หากคิดในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่คนเรามีแต่ความทรงจำในด้านดี ยามเมื่อเราจะต้องเจอกับเหตุการณ์เดิม ที่มันเคยทำให้เราต้องเจ็บปวดหัวใจ เราก็คงต้องเผชิญกับมันโดยไม่มีสามัญสำนึกเก่า ที่จะมาเตือนเราว่า “เรื่องแบบนี้เราเคยเจอมาแล้วนะ ไม่ควรทำอีกนะ” และแน่นอนเราก็ต้องตกอยู่ในวังวนแห่งเหตุการณ์เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
การถูกลบเลือนความทรงจำ น่ากลัวกว่าการ จดจำความทรงจำนั้นไว้ เราอาจจะเจ็บปวดเมื่อเราคิดถึงมัน แต่แน่นอน มันจะเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับชีวิตเรา ไม่ให้เราต้องคอยมาเจ็บปวดในแบบเดิม ๆ อีกต่อไป
ผมชอบประโยคหนึ่งในหนังที่พูดว่า “เมื่อความทรงจำถูกลบเลือน จิตวิญญาณก็สูญสิ้นไปด้วย” เราคงไม่อาจรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของการสูญสิ้นจิตวิญญาณของการถูกลบเลือนความทรงจำได้ จนกว่าเราจะต้องเจอกับสถานการณ์นั้นเอง
หลายครั้งเรามักหลงลืม...ลืมล็อกห้อง ลืมของไว้ในห้องน้ำ ลืมกินยา ลืมทำงานที่ค้างคา ลืมวันเกิดเพื่อน ลืมว่าวันนี้นัดใครไว้ ลืมชื่อคนที่เคยรู้จัก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในชีวิตเราทุกคน มันเป็นผลของการที่สมองในส่วนของความทรงจำทำงานผิดพลาด
ผมได้มีโอกาสดูหนังเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “A Moment to Remember” จึงได้เข้าใจความเจ็บปวดของการถูกลบความทรงจำ ในหนังพูดถึงประเด็นของการถูกลบเลือนทางความทรงจำได้อย่างน่าสนใจ และนำเสนอว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อเราต้องสูญเสียความทรงจำ
ผมเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อยากจะลืมอดีต” “ฉันไม่อยากจดจำวันเวลาเก่า ๆ ที่เลวร้าย”
แน่นอนความทรงจำในชีวิตเรา ล้วนมีทั้ง ดี และ ไม่ดี แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาก่อรวมกันเป็น “ประสบการณ์แห่งคำว่า ชีวิต” และทำให้เรา เป็น เรา ได้ในทุกวันนี้ ความทรงจำที่ไม่ดี อาจทำให้เราเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงมัน แต่ความทรงจำที่ดี ก็ทำให้เราอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ยามที่ได้หวนระลึกถึงเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะนึกถึงสิ่งไหนมากกว่ากัน
ปัจจุบันมีการวิจัยถึงเรื่องการลบความทรงจำออกจากสมองของมนุษย์ งานชิ้นนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ในทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นจริงได้ในอนาคต ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริง หลายคนคงไม่ต้องเจ็บปวดในการที่จะต้องทรมานกับความทรงจำที่ไม่ดีอีกต่อไป และแน่นอนชีวิตเราก็คงเหลือเพียงแต่ความทรงจำที่แสนหวาน และโลกของทุกคนคงเป็นสีชมพู
แต่หากคิดในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่คนเรามีแต่ความทรงจำในด้านดี ยามเมื่อเราจะต้องเจอกับเหตุการณ์เดิม ที่มันเคยทำให้เราต้องเจ็บปวดหัวใจ เราก็คงต้องเผชิญกับมันโดยไม่มีสามัญสำนึกเก่า ที่จะมาเตือนเราว่า “เรื่องแบบนี้เราเคยเจอมาแล้วนะ ไม่ควรทำอีกนะ” และแน่นอนเราก็ต้องตกอยู่ในวังวนแห่งเหตุการณ์เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
การถูกลบเลือนความทรงจำ น่ากลัวกว่าการ จดจำความทรงจำนั้นไว้ เราอาจจะเจ็บปวดเมื่อเราคิดถึงมัน แต่แน่นอน มันจะเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับชีวิตเรา ไม่ให้เราต้องคอยมาเจ็บปวดในแบบเดิม ๆ อีกต่อไป
ผมชอบประโยคหนึ่งในหนังที่พูดว่า “เมื่อความทรงจำถูกลบเลือน จิตวิญญาณก็สูญสิ้นไปด้วย” เราคงไม่อาจรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของการสูญสิ้นจิตวิญญาณของการถูกลบเลือนความทรงจำได้ จนกว่าเราจะต้องเจอกับสถานการณ์นั้นเอง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)