วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กรอบ...



เส้นตรงเรียงรายตัดกันไปมา แสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็มเพดานในห้องสี่เหลี่ยมขนาดย่อม ได้ตกกระทบภายในม่านตาของฉันส่งการประมวลผลไปยังสมองทำให้เกิดความรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวอย่างบอกไม่ถูก

แสงไฟสีแดงจากหลอดที่ถูกขึงติดกับเพดานด้วยสายไฟเส้นเดียวห้อยแกว่งไกวไปตามแรงลมที่มีต้นกำเนิดมาจากพัดลมติดเพดานที่อยู่ข้าง ๆ แม้แรงลมจะทำให้หลอดไฟไหวไปมา แต่มันมิได้สะทกสะท้านต่อผิวกายของเจ้าจิ้งจกที่เกาะอยู่ข้างฝาผนังแม้เพียงนิด มันกลับเกาะนิ่งไม่ไหวติงเหมือนกำลังรอคอยโอกาสบางอย่างที่กำลังจะผ่านเข้ามาในชีวิต...

ผนังทั้งสี่ด้านทอดตัวจรดกันไร้รอยแยกราวกับว่ามันกำลังปิดกั้นชีวิตฉันออกจากโลกภายนอก และแม้จะมีประตู ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะช่วยปลดปล่อยฉันสู่โลกภายนอกสักนิดเดียว ทั่วพื้นเต็มไปด้วยกองหนังสือหลากประเภทซึ่งมันถูกพันธนาการจากผงฝุ่น และเศษแมลงเล็ก ๆ ที่สิ้นชีพลงภายในโลกอันไร้อิสรภาพแห่งนี้ สำหรับเจ้าแมลงพวกนี้ห้องนี้อาจจะดูโอ่โถง แต่มนุษย์อย่างฉันมันช่างแคบ แต่หลายครั้งฉันมักจะชอบอยู่ในที่แคบไร้อิสระมากกว่าโลกกว้างที่เต็มไปด้วยอิสระไร้ขอบเขตจนหลายคนยอมให้อิสระนั้นทำลายตัวตนที่แท้จริงซึ่งถูกกักขังอยู่ในจิตวิญญาณของตน

แมงมุมหลายตัวกำลังชักใยของมันอย่างขะมักเขม้น หรือมันกำลังสร้างสรรค์งานศิลป์ผ่านสัญชาตญาณแห่งชีวิต ราวกับว่ามีผู้ใดได้บ่งบอกจุดมุ่งหมายในชีวิตให้กับมัน หลายครั้งฉันอิจฉาพวกมันเพราะมันเข้าใจชีวิตมากกว่าฉันเสียอีก สายใยของมันถูกเชื่อมโยงติดกันอย่างเป็นระบบมันโหนตัวไปมาจากมุมหนึ่งสู่อีกมุมหนึ่งเพื่อเชื่อมต่อเส้นใยเหล่านั้นกับผนังห้อง และแล้วก็ถึงเวลานิ่งสงบรอคอย...
มันหยุดนิ่งแต่ไม่หยุดที่จะรอคอย

แม้ในห้องจะดูรกรุงรัง เขลอะขละไร้สิ่งใดประดับเติมแต่งความงดงามตามผนังและพื้นห้อง คนภายนอกอาจมองว่าสกปรก แต่ฉันว่านี่คือความจริงไร้สิ่งเจือปนไม่ใช่การแสดงซึ่งหาดูได้จากโลกที่อยู่นอกประตูบานนั้นโลกที่ดูสวยงามเต็มไปด้วยศีลธรรม ฉาบไปด้วยผู้คนที่มีรสนิยม การศึกษา ความรู้ แต่มิได้เข้าใจความหมายของชีวิตมากไปกว่าแมงมุมซักตัว มิได้เรียนรู้ที่จะนั่งสงบรอคอยเหมือนเจ้าจิ้งจก ไม่รู้จักที่จะโอนอ่อนตามกระแสลมแรงเหมือนเช่นหลอดไฟในห้องแคบ ๆ ที่ทั้งเก่า เขลอะขละ รกรุงรัง

ฉันไม่กล้าแม้เพียงย่างล้ำออกไปจากประตูบานนี้เลยแม้สักครั้งเดียว...

ไม่มีความคิดเห็น: