วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ผู้แสวงหา...

ฉันออกเดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ เพื่อตามล่าหาความหมายที่แท้จริงในชีวิต ฉันมีธนูเป็นอาวุธ ทุกครั้งที่ฉันง้างสาย และปล่อยลูกธนูไปมันไม่เคยพลาดเป้า แม้เพียงสักครั้งก็ยังไม่เคย

วันนี้ฉันยืนอยู่ ณ ดินแดนแห่งใหม่เป็นการมาเยือนครั้งแรกของฉัน ถึงแม้เป็นอย่างนี้ฉันก็ไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย ทั้งยังคาดหวังจะได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ที่มิเคยมีผู้ใด พานพบมาก่อน ฉันเร่งฝีเท้าไปยังดินแดนเบื้องหน้า ไปตามที่สายตามองเห็น เมืองนี้ช่างงดงามแปลกตายิ่งนัก

ฉันต้องแปลกใจเมื่อก้าวข้ามประตูเมือง เมื่อพบเจอรอยยิ้มของผู้คน และการโบกมือทักทายอย่างเป็นกันเองราวกับว่าฉันมิใช่คนแปลกหน้า ต่างจากหลายแห่งที่ฉันได้ไปเยือนมาช่างน่าอัศจรรย์ แต่ฉันก็มิอาจวางใจ กำอาวุธคู่กายไว้แน่น เพราะสิ่งที่ได้เรียนรู้มากล่าวไว้ว่า “ในความงดงามมักแฝงด้วยพิษร้ายเสมอ” ฉันก้าวเท้าเข้าไปอย่างมั่นคงสายตาจับจ้องสังเกต มิอาจวางใจในสิ่งที่เห็นได้

ฉัน สะดุ้งเฮือก !!! หันหลังง้างธนู ด้วยสันชาติญาณ แต่กลับต้องลดแขนลงเมื่อภาพข้างหน้ามิใช่ศัตรูแน่เป็นภาพของเด็กน้อยที่นำดอกไม้ สีสดสวยยื่นให้ ฉันมิอาจวางใจรับไว้ แต่แววตาของเขาคลายกังวลให้ฉันเป็นอย่างยิ่ง ฉันรับดอกไม้ เด็กน้อยยิ้ม แล้ววิ่งหันหลังจากไป ทิ้งเพียงดอกไม้ และความอุ่นใจไว้กับฉัน

ฉันมิเคยพบเจอสิ่งใดเช่นนี้ แม้ว่าจะท่องไปยังที่ต่าง ๆ มากมาย ทุกที่ ที่ฉันไปเยือนล้วนแต่มี พยันตรายแอบแฝง หากพังพลาดเมื่อใด ชีวิตอาจดับสูญ โลกนี้สอนให้ฉันยืนหยัดด้วยตนเอง แต่ในดินแดนแห่งนี้ ราวกับว่าทุกคนไร้สิ่งกังวลใด ๆ ทุกคนใช้ชีวิตอยู่อย่างผาสุก ร้อยยิ้มและการเผื่อแผ่ มีให้เห็นอยู่เต็มลานเมือง ต่างจากทุกที่ในโลกที่ทุกลานเมืองจะมีแต่รอยเลือด และการแย่งชิง

ไม่น่าเชื่อว่าดอกไม้เพียงดอกเดียวจะทำให้ฉันละมือจากอาวุธได้

ความแข็งแกร่ง และอาวุธคงไร้ค่าสำหรับเมืองนี้ เพราะที่นี้มีความอ่อนโยนและไมตรีเป็นอาวุธที่ทรงพลังคอยปกป้องดินแดนนี้ ฉันเชื่อว่ามิอาจมีนักรบ หรือผู้ใดจะสามารถเอาชนะผู้คน ณ ดินแดนแห่งนี้ได้ หัวใจฉันเริ่มร่ำร้องที่จะอยู่ที่นี่ แต่ฉันมิอาจเชื่อฟังมันได้ เพราะหากฉันอยู่ที่นี่ชีวิตฉันคงไร้ค่าเหมือนดังเช่นเจ้าธนูผู้เคยองอาจ ดินแดนแห่งนี้คงไม่เหมาะกับเราทั้งสอง

ฉันจึงจากมาโดยมิกล่าวลา ฉันคงเป็นแค่ผู้ผ่านทาง มิอาจฝังตัวอยู่ที่ใดได้ หรือแท้จริงมันเป็นเพียงแค่เส้นตัดของกาลเวลา ที่มาบรรจบกันเพียงแค่ชั่วครู่ แล้วผ่านเลยไป

ฉันจึงจากดินแดนแห่งนั้นมา พร้อมกับอาวุธชิ้นใหม่ . . .



1 ความคิดเห็น:

TheGo... กล่าวว่า...

เหมือนคนหนีความเป็นคน
สับสนวกวนวุ่นวายนัก
สังคมแก่งแย่งประจักษ์
มิพักต้องแข่งต่อไป

เมื่อหยุดคงคือความตาย
สุดท้ายอาจไร้คู่เกี่ยว
เชื่อตัวสู้ต่อแต่คนเดียว
ทางเลี้ยวสุดท้ายหาไม่เจอ

เหมือนคนกำลังวิ่งหนีความสุขเพราะไม่รู้ว่ามีอยู่จริง